วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552

Nice guy syndrome

อาการดีเกินไป (อังกฤษ: Nice guy syndrome) เป็นคำจำกัดความทางจิตวิทยาบรรยายลักษณะของเพศ ที่มีปัญหาในการมีคู่ โดยมีที่มาจากคำพูดของเพศตรงข้ามว่า "ดีเกินไป" (ตัวอย่าง เธอเป็นคนดีเกินไป แต่เราไม่สามารถเป็นแฟนกันได้ มาคบกันเป็นเพื่อนเถอะ) ซึ่งเกิดจากความรู้สึกของเพศตรงข้ามเปรียบเทียบลักษณะ "ผู้หญิงที่ดีเกินไป" ไม่เข้าใจการเติบโต การวางตัวต่อเพศตรงข้าม และเรื่องราวของการมีชีวิตคู่ รวมไปถึงไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์โรแมนติค



ลักษณะของบุคคลที่อยู่ในอาการดีเกินไป ส่วนมากจะมีจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักจะมีปัญญาสูงกว่าบุคคลทั่วไป เชื่อมั่นในความคิดตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ขาดความเข้าใจในความคิดของผู้ชาย ขาดความเข้าใจในเรื่องของสังคมมนุษย์ และในหลาย ๆ ครั้งจะขาดความมั่นใจในเรื่องความรัก การแสดงออกจะออกมาในลักษณะ การช่วยเหลือหรือเสนอตัวช่วยเหลือ ไม่ว่าเพศตรงข้ามจะต้องการหรือไม่ แสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ตอบสนองความต้องการของตัวเอง (ที่ต้องการแสดงออก โดยการช่วยเหลือ) การพูดจาจะแสดงออกมาในลักษณะการฟังมากกว่าการพูด ในขณะที่เพศตรงข้ามต้องการบุคคลที่สามารถวางตัวในสังคม และมีความมั่นคงทางอารมณ์



ทฤษฎีขั้นบันไดของความรัก สนับสนุนแนวความคิดของอาการดีเกินไปว่า ผู้หญิงโดยปกติจะถูกดึงดูดด้วย ลักษณะความมั่นคงทางด้านจิตใจ ฐานะ และความเป็นตัวของตัวเองของเพศตรงข้าม มากกว่ารูปร่างหน้าตา ในขณะเดียวกับที่ผู้ชายส่วนมากจะถูกดึงดูดด้วย รูปร่างและหน้าตาของเพศตรงข้าม มากกว่าปัจจัยอื่น



ถึงแม้ว่า อาการดีเกินไป จะไม่ถูกนับเป็นอาการทางจิต แต่ผลที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอาการ จะทำให้เกิดความท้อแท้ และหมดหวังในการเติบโตและเข้าใจลักษณะโครงสร้างของสังคมมนุษย์ วิธีแก้อาการเหล่านี้ แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการเข้าใจผู้คนและสังคม โดยการเปลี่ยนแนวการดำรงชีวิต เช่น การออกไปทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เรียนรู้ลักษณะของสังคมรอบตัว ส่งผลให้เกิดความรู้ที่เปิดกว้างขึ้นในการเรียนรู้สังคม การวางตัวในสังคม และการวางตัวต่อเพศตรงข้ามตามมา เว็บไซต์จัดหาคู่ได้นำทฤษฎีนี้มาช่วยเหลือ ผู้ที่มีอาการเหล่านี้



คำนี้ที่ได้ยินกะตัวเอง ครั้งที่สองในชีวิต (มึน ความคิดมันหยุด)

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

web scraping

เขียน blog เป็นครั้งแรก ขอเอางานจากวิชาสัมนามาลงซะหน่อย เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง

Web Scraping รือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า harvesting เป็นการดึงข้อมูลส่วนที่เราต้องการจากหน้าเว็บไซต์มาเป็นข้อมูลของเรา หากเว็บไซต์นั้นมีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดูว่ามีข้อมูล อัพเดทใหม่หรือไม่ ขณะที่เว็บไซต์แต่ละแห่งอาจมีระยะความถี่ในการอัพเดท ไม่เท่ากัน บางครั้งเราอาจะหลงลืมจนเข้าไปดูเนื้อหาอัพเดทใหม่บนเว็บไซต์ ไม่ครบถ้วน Web Scraping จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มข้อมูลที่ทำการอัพเดทใหม่ได้ โดยไม่ต้องเข้าไปดูทุกครั้งให้เสียเวลา เหมือนกับweb service แต่สำหรับ web ที่เราต้องการข้อมูลของเค้า แต่ไม่มีบริการ service เราจึงต้องทำการ scraping


หลักการทำงานของ web scraping คือโปรแกรมที่รู้วิธีการดึงข้อมูลจากเอกสารหน้า html โดยการเรียนรู้ภาษา markup และรูปร่างภายนอกในการแสดงข้อมูล ทำการดึงเฉพาะข้อมูลที่เราต้องการ

ซึ่งการทำ นั้นมีหลายวิธี และยังมีโปรแกรมสำเร็จรูปที่ช่วยในการทำด้วย แต่ที่จะนำเสนอวันนี้ 2 วิธี คือ การใช้ excel และ การเขียนขึ้นเองโดยใช้ php


วิธีที่1 การสร้าง Web Scraping โดยใช้ Microsoft Excel 2003

1. เข้าสู่ Microsoft Excel 2003 >> ข้อมูล >> นำเข้าข้อมูลจากภายนอก >> สร้างแบบสอบถามเว็บ

















2. ขั้นตอนการนำข้อมูลเข้า













ส่วนที่ 1 ใส่ url ของเว็บที่ต้องการ scrap

ตัวอย่างใช้เวปที่บอกราคาน้ำมัน

http://www.eppo.go.th/retail_prices.html

ส่วนที่ 2 คลิ๊กเพื่อเลือกส่วนที่ต้องการทำการ scrap

จะเป็นรูปลูกศรเหลืองๆ

ส่วนที่ 3 คลิ๊กเพื่อนำข้อมูลเข้า





3. กำหนดตำแหน่งข้อมูล













ผลที่ได้จะเป็นแบบนี้ เราก็จะมีราคาน้ำมันที่อัพเดททุกครั้งเป็นของเรา แต่ต้องต่อเนตนะ
แต่ไม่ต้องเข้าเวปจิงๆของเค้า














วิธีที่ 2 เขียน scrap เอง โดยใช้ความรู้ php (ที่เจ้าของบล็อกมีอยู่น้อยนิด)

1. เลือกเว็บที่เราต้องการทำการ scraping เล็งส่วน

ที่เราต้องการข้อมูล













2. เลือกส่วนข้อมูลที่เราต้องการจะ scraping โดยการ View Page Source

เพื่ออ่าน code HTML เพื่อเลือกส่วนที่เราต้องการข้อมูล















3. ลงมือเขียน php รายละเอียดของ oil.php ที่เราเขียนขึ้นมาเอง









ผลที่ได้ เราก็จะได้ราคาน้ำมันมาอยู่ในหน้าเวปของเราเอง















ปล. web scraping ถือเป็นการ แฮคข้อมูล
เพราะฉะนั้น ควรใช้อย่างระมัดระวัง ใช้ในทางที่ถูก ให้เครดิตกะเจ้าของเวปต้นฉบับด้วย
ขออภัยที่ภาพไม่ชัด